วัตถุมงคล ไตรมาส ๒๕๕๗ รุ่น รวยทันใจ
หลวงปู่จันทร์ ฐิตาจาโร วัดซับน้อย อธิฐานจิตไตรมาส
เพื่อสร้างศาลาการเปรียญและให้สาธุชนได้นำไปเป็นที่ระฤก

รูปเหมือนปั้ม รุ่นแรก เนื้อเงินหน้าทองคำแท้
รูปเหมือนปั้ม รุ่นแรก เนื้อเงิน
รูปเหมือนปั้ม รุ่นแรก เนื้อเหล็กน้ำพี้ (เหล็กดูดติด)
รูปเหมือนปั้ม รุ่นแรก เนื้อนวะโลหะ
รูปเหมือนปั้ม รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้า
รูปเหมือนปั้ม รุ่นแรก เนื้อขวานฟ้าแช่น้ำมนต์
รูปเหมือนปั้ม รุ่นแรก เนื้อมหาชนวนโลหะธาตุ
รูปเหมือนปั้ม รุ่นแรก เนื้อตะกั่วหน้ากากทองระฆัง
รูปเหมือนปั้ม รุ่นแรก ที่หลวงปู่จันทร์ หล่อหลอมวัชรธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั่วแผ่นดิน เพื่อให้ได้ของดี ของขลัง ไว้ให้ศิษยานุศิษย์ได้พกได้ติดตัว เพื่อปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดผองภัยภยันตรายได้ทั้งปวง และให้เป็นเมตตามหานิยม เอกอุด้วยความมั่งคั่งสมบูรณ์พร้อมด้วยบริวานรอันเป็นที่รักเชื่อฟัง ไม่มีศัตรูหมู่มารมาให้หมองจิตหมองใจ เพราะเข้าใกล้จะเป็นมิตรด้วยพุทธนุภาพ ธรรมมานุภาพ สังฆานุภาพ
ไก่เหลียวเกี้ยวทรัพย์..โภคทรัพย์มหาลาภ..เสน่ห์หาทันใจ ไก่ป่าจากเนินเขาวัดซับน้อยผสมผสานไก่ป่าแดนหิมพานต์ หล่อหลอมมวลสารจากแร่บนเขาซับน้อยซึ่งเกิดจากธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดตามธรรมชาติ เกิดเองตามป่า ตามเขา ตามถ้ำ รวมถึงแร่ที่ตกจากฟ้าแร่ทนสิทธิ์ต่างๆเข้มข้นมวลสารจากธาตุ กายสิทธิ์เพื่อให้ได้ไก่ที่เด่นทางเมตตา มหาลาภ โชคลาภ มหาเสน่ห์ จากลมปรารณหนึ่งเดียวตามโบราณาจารย์ในอดีต หลวงปู่ท่านบังคับยันต์
นะมะพะทะ ด้วยธาตุทั้ง ๔ ให้มีอาการ 32 มันถึงจะขลัง มีชีวิต หากินเองได้ หากินเองเป็น เรียกสูตรหัวใจไก่ด้วยยันต์พญาไก่เถื่อน ซึ่งเป็นยันต์ที่มหาอานุภาพมาก ดีทุกด้าน ไม่ว่าจะเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ มหาลาภ มหาโภคทรัพย์ มหาตบะเดชะ ป้องกันภัยภยันตราย ปัญญาดีเลิศ ใต้ฐานไก่เหลียวหลวงปู่ท่านสั่งให้นำผงกัลปังหาที่ตากแห้งกับกิ่งเถาวัลหลงดงบดแห้งผสม ผงอิทธิเจ ผงปัถมัง ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงพุทธคุณ โถเอกของพระอาจารย์ แล้วให้นำข้าวเปลือกเสกเสาร์ ๕ ตลอดหลายปี นำมาใส่ใต้ฐาน ให้ไก่มีความสมบูรณ์ครบถ้วนตามตำรา เมื่อเรานำไปบูชาเราก็จะมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วย เมื่อก่อนไม่มีอะไรให้ญาติโยม ใครมาทำบุญไม่รู้จะให้อะไร กำลังให้ข้าวเปลือกไก่ป่าไก่บ้าน เมล็ดข้าวเปลือกหลวงปู่จันทร์นี่แหละ เสกมาหลายปี ไม่มีอะไรให้ แจกข้าวเปลือกนี่แหละ คนเขาบอก เขาไปใช้แล้วเจอกับตัว คุณไสยที่เขาปล่อยมาตามลม ตามอากาศ เผลอทักเลยเข้าตัว ได้เมล็ดข้าวเปลือกเสกหลวงปู่จันทร์ เม็ดเดียว เอามาทำน้ำมนต์รดไล่สิ่งอวมงคลออกไป หายขาด
เบี้ยแก้...เบี้ยกัน...บันดาลโชค...รวยล้นเหลือ
เบี้ยแก้ คือ เครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง ที่ผ่านการปลุกเสกจากคณาจารย์ต่างๆ เครื่องรางชนิดนี้ต้องใช้เบี้ยจั่นมาบรรจุปรอท ซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์ ซึ่งได้จากธรรมชาติ ในบางคณาจารย์จะบรรจุมวลสารแตกต่างกันไป เช่น มวลสารศักสิทธิ์ต่างๆ นานา แล้วแต่คณาจารย์ท่านใดจะนำมวลสารอะไรมาบรรจุ แต่ที่เป็นหัวใจของเบี้ยที่จะขาดเสียมิได้คือ ปรอท ที่เป็นปรอทธรรมชาติ อุดด้วยชันโรงหรือขี้ครั่ง แล้วนำไปปลุกเสกตามวิทยาคมของพระเถราจารย์ที่ทรงวิทยาคม เชื่อกันว่าถ้าใครมีเบี้ยแก้พกพาติดตัว จะมีอิทธิคุณต่างๆมากมาย เช่น แก้คุนไสย มนต์ดำต่างๆ ภูติผี แก้ยาสั่ง ปกป้องลมเพลมพัด ป้องกัน สัตว์ เขี้ยว งา รักษาบาดแผล แคล้วคลาด คงกระพัน เป็นมหาเสน่ห์ โชคลาภ และยังป้องกันไข้ป่าได้อีกด้วย ดังนั้น เบี้ยแก้ จึงเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกับเมืองสยามมาตั้งแต่อดีตกาล
เบี้ยแก้...เบี้ยกัน...บันดาลโชค...รวยล้นเหลือ
เบี้ยแก้ เบี้ยกัน บันดาลโชค รวยล้นเหลือ หลวงปู่จันทร์ได้นำตำรับตำรา วิชา วิทยาคม พุทธคุณ ของบรมครูในอดีตกาล มาจัดสร้างอย่างถูกต้องตามวิธีการอย่างถี่ถ้วน การรวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ในที่สำคัญต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นมวลสารที่เป็นมงคล มีอิทธิคุณสูงยิ่ง เพื่อให้เบี้ยแก้ได้มีพลังแห่งมงคล มีพลังธาตุที่สมบูรณ์ เพื่อใช้เป็นเบี้ยแก้อันศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธคุณเลิศล้ำแด่ท่านที่บูชาอย่างแท้จริง
มวลสารต่างๆ ที่ได้นำมาจัดสร้างเบี้ยแก้ ในวาระนี้ประกอบด้วย
หอยเบี้ย หรือเบี้ยจั่น ในการคัดเลือกตัวเบี้ยนั้น ที่จะนำมาจัดสร้างเบี้ยได้คือการนับซี่ฟันของตัวเบี้ยให้มีซี่ฟัน ๒๒ ซี่ หรือ ๒๔ ซี่ หรือ ๓๒ ซี่ นอกจากนับซี่ฟันแล้ว จะต้องคัดเลือกตัวเบี้ยที่ได้อายุหรือหมดอายุขัย คือ ตายเองตามธรรมชาติเท่านั้น เบี้ยที่ได้คัดเลือกเช่นนี้แล้วถึงจะนำมาจัดสร้างได้ ถือว่าเป็นตัวเบี้ยที่มีดีในตัว ในสมับโบราณบรมครูต่างๆ ความเชื่อของไทยเราเชื่อว่า เบี้ยที่มีดีในตัวนั้นจะสามารถป้องกันคุณไสย ลมเพลมพัด หรือยาสั่งต่างๆได้ แม้กระทั่งป้องกันแมงกินฟันในเด็ก เหตุนี้คนสมัยโบราณหรือคณาจารย์ในอดีตจึงเอาเบี้ยจั่นมาบรรจุปรอทซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์อีกชนิดหนึ่ง ประกอบกับตัวเบี้ย มีเปลือกที่แข็งแรง คงทน และตัวพอประมาณ ทำให้เก็บรักษาปรอทได้ง่าย
มวลสารที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งในการสร้างเบี้ยแก้ ปรอท ธาตุกายสิทธิ์ หลวงปู่จันทร์ ท่านบอกว่า หัวใจของการสร้างเบี้ยแก้ให้มีอิทธิคุณ คือปรอทธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธรรมชาติ ครูบาอาจารย์ท่านระบุไว้ตามตำราว่า ปรอท คือธาตุกายสิทธิ์ที่สามารถป้องกันสัตว์ป่า คุณไสย ลมเพลมพัด สามารถใช้เป็นเครื่องราง ในด้านคงกระพันชาตรี และเกิดโชคลาภ ใช้ในการเดินป่าซึ่งมีอันตรายอยู่รอบด้านอย่าง เสือสมิง หรือ ภูติต่าง ๆ จะไม่สามารถทำอันตรายได้ รวมทั้ง เขี้ยว งา ไข้ป่าอีกด้วย และยังสามารถรักษาแผลได้ด้วย
การที่จะได้ปรอทมาในการจัดสร้างครั้งนี้ ต้องใช้เวลานานนับหลายปี เพื่อรวบรวมปรอทจากธรรมชาติให้ได้พอที่จะจัดสร้างเบี้ยในวาระนี้ เพราะการกักปรอทธรรมชาตินั้นต้องมีพิธีกรรมอย่างถูกวิธีการ และความอดทนอย่างสูง เพื่อให้ได้ปรอทจากธรรมชาติแท้ๆ ที่ระบุไว้ตามโบราณกาล ถูกต้องตามตำราของครูบาอาจารย์ เริ่มจากการเลือกสรรพไข่ไก่ เป็นไก่ชนโบราณหรือไก่สยามไทย ที่เน่าเสีย เจาะรูเล็กๆ ไว้สองข้าง เอาสายสิญจน์ที่ผ่านการปลุกเสกจากหลวงปู่จันทร์มาหลายปีผูกติดกับไม้ไผ่ ที่เรียกว่าไม้ไผ่สีสุขที่ผ่าง่าม ปักไว้ริมคลอง ริมแม่น้ำ หรือลำธาร แต่จะต้องเป็นสถานที่สงบ ร่มเย็น ไม่มีคนพลุกพล่าน หรือสถานที่ที่เรียกว่า สัมปายะ เพราะปรอทจะไม่ชอบเสียงที่ดังต่างไปจากธรรมชาติ การใช้ใข่ไก่นั้นหลวงปู่จันทร์ท่านเล่าว่า นิสัยของปรอทจะชอบกินของสองอย่างคือ ของต่ำ และ ของสูง ควบคู่กันไป เช่น ของเน่า ที่เป็นของต่ำ ของสูง เช่น ทองแดง ทองเหลือง เงิน หรือแม่แต่ทองคำ การที่ใช้ใข่ไก่นั้น ปรอทจะเข้าไปตามรูเล็กๆ ที่เจาะไว้ เพื่อเข้าไปกินเนื้อข้างในไข่ขาว ไข่แดง ที่เน่าเสีย เมื่อเข้าไปกินเนื้อในของไข่ในลักษณะของไข่ไก่ตามแนวนอน จะมีรูปโค้งเว้า ปรอทจะเข้าไปนอนอยู่ในไข่ไก่ ไข่ไก่นั้นมีเปลือกโอบรอบ จึงเป็นสิ่งที่จะกักปรอทได้ดีที่สุด
เมื่อหาทำเลและหาที่รองเพื่อดักปรอทได้แล้ว...
เบี้ยแก้...เบี้ยกัน...บันดาลโชค...รวยล้นเหลือ
เบี้ยแก้ เบี้ยกัน บันดาลโชค รวยล้นเหลือ หลวงปู่จันทร์ได้นำตำรับตำรา วิชา วิทยาคม พุทธคุณ ของบรมครูในอดีตกาล มาจัดสร้างอย่างถูกต้องตามวิธีการอย่างถี่ถ้วน การรวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ในที่สำคัญต่างๆ ล้วนแล้วแต่เป็นมวลสารที่เป็นมงคล มีอิทธิคุณสูงยิ่ง เพื่อให้เบี้ยแก้ได้มีพลังแห่งมงคล มีพลังธาตุที่สมบูรณ์ เพื่อใช้เป็นเบี้ยแก้อันศักดิ์สิทธิ์ มีพุทธคุณเลิศล้ำแด่ท่านที่บูชาอย่างแท้จริง
มวลสารต่างๆ ที่ได้นำมาจัดสร้างเบี้ยแก้ ในวาระนี้ประกอบด้วย
หอยเบี้ย หรือเบี้ยจั่น ในการคัดเลือกตัวเบี้ยนั้น ที่จะนำมาจัดสร้างเบี้ยได้คือการนับซี่ฟันของตัวเบี้ยให้มีซี่ฟัน ๒๒ ซี่ หรือ ๒๔ ซี่ หรือ ๓๒ ซี่ นอกจากนับซี่ฟันแล้ว จะต้องคัดเลือกตัวเบี้ยที่ได้อายุหรือหมดอายุขัย คือ ตายเองตามธรรมชาติเท่านั้น เบี้ยที่ได้คัดเลือกเช่นนี้แล้วถึงจะนำมาจัดสร้างได้ ถือว่าเป็นตัวเบี้ยที่มีดีในตัว ในสมับโบราณบรมครูต่างๆ ความเชื่อของไทยเราเชื่อว่า เบี้ยที่มีดีในตัวนั้นจะสามารถป้องกันคุณไสย ลมเพลมพัด หรือยาสั่งต่างๆได้ แม้กระทั่งป้องกันแมงกินฟันในเด็ก เหตุนี้คนสมัยโบราณหรือคณาจารย์ในอดีตจึงเอาเบี้ยจั่นมาบรรจุปรอทซึ่งเป็นธาตุกายสิทธิ์อีกชนิดหนึ่ง ประกอบกับตัวเบี้ย มีเปลือกที่แข็งแรง คงทน และตัวพอประมาณ ทำให้เก็บรักษาปรอทได้ง่าย
มวลสารที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งในการสร้างเบี้ยแก้ ปรอท ธาตุกายสิทธิ์ หลวงปู่จันทร์ ท่านบอกว่า หัวใจของการสร้างเบี้ยแก้ให้มีอิทธิคุณ คือปรอทธาตุกายสิทธิ์ที่เกิดจากธรรมชาติ ครูบาอาจารย์ท่านระบุไว้ตามตำราว่า ปรอท คือธาตุกายสิทธิ์ที่สามารถป้องกันสัตว์ป่า คุณไสย ลมเพลมพัด สามารถใช้เป็นเครื่องราง ในด้านคงกระพันชาตรี และเกิดโชคลาภ ใช้ในการเดินป่าซึ่งมีอันตรายอยู่รอบด้านอย่าง เสือสมิง หรือ ภูติต่าง ๆ จะไม่สามารถทำอันตรายได้ รวมทั้ง เขี้ยว งา ไข้ป่าอีกด้วย และยังสามารถรักษาแผลได้ด้วย
การที่จะได้ปรอทมาในการจัดสร้างครั้งนี้ ต้องใช้เวลานานนับหลายปี เพื่อรวบรวมปรอทจากธรรมชาติให้ได้พอที่จะจัดสร้างเบี้ยในวาระนี้ เพราะการกักปรอทธรรมชาตินั้นต้องมีพิธีกรรมอย่างถูกวิธีการ และความอดทนอย่างสูง เพื่อให้ได้ปรอทจากธรรมชาติแท้ๆ ที่ระบุไว้ตามโบราณกาล ถูกต้องตามตำราของครูบาอาจารย์ เริ่มจากการเลือกสรรพไข่ไก่ เป็นไก่ชนโบราณหรือไก่สยามไทย ที่เน่าเสีย เจาะรูเล็กๆ ไว้สองข้าง เอาสายสิญจน์ที่ผ่านการปลุกเสกจากหลวงปู่จันทร์มาหลายปีผูกติดกับไม้ไผ่ ที่เรียกว่าไม้ไผ่สีสุขที่ผ่าง่าม ปักไว้ริมคลอง ริมแม่น้ำ หรือลำธาร แต่จะต้องเป็นสถานที่สงบ ร่มเย็น ไม่มีคนพลุกพล่าน หรือสถานที่ที่เรียกว่า สัมปายะ เพราะปรอทจะไม่ชอบเสียงที่ดังต่างไปจากธรรมชาติ การใช้ใข่ไก่นั้นหลวงปู่จันทร์ท่านเล่าว่า นิสัยของปรอทจะชอบกินของสองอย่างคือ ของต่ำ และ ของสูง ควบคู่กันไป เช่น ของเน่า ที่เป็นของต่ำ ของสูง เช่น ทองแดง ทองเหลือง เงิน หรือแม่แต่ทองคำ การที่ใช้ใข่ไก่นั้น ปรอทจะเข้าไปตามรูเล็กๆ ที่เจาะไว้ เพื่อเข้าไปกินเนื้อข้างในไข่ขาว ไข่แดง ที่เน่าเสีย เมื่อเข้าไปกินเนื้อในของไข่ในลักษณะของไข่ไก่ตามแนวนอน จะมีรูปโค้งเว้า ปรอทจะเข้าไปนอนอยู่ในไข่ไก่ ไข่ไก่นั้นมีเปลือกโอบรอบ จึงเป็นสิ่งที่จะกักปรอทได้ดีที่สุด
เมื่อหาทำเลและหาที่รองเพื่อดักปรอทได้แล้ว...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น